วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เคล็ดลับ (ที่ไม่ลับ) ที่ทำให้การขอวีซ่านักเรียนนั่นผ่านฉลุย!!




คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ที่จะทำการยื่นวีซ่านักเรียน
·         อายุ 18 ปีขึ้นไป ถ้าอายุน้อยกว่านี้ต้องมีหนังสือคำยินยอมจากผู้ปกครอง
·         จบการศึกษาตั้งแต่ ม.6 หรือเทียบเท่า
·         Transcript ตัวจริงพร้อมสำเนา 
·         หลักฐานการเงินย้อนหลัง 6 เดือนที่มีรายการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และไม่ได้แสดงถึงการตั้งใจจะนำเงินเข้าเพื่อใช้ขอวีซ่าเพียงอย่างเดียว (ยอดเงิน จะคำณวณคร่าวๆจากระยะเวลาที่สมัครเรียน)
·         จดหมายยินยอมของผู้สนับสนุนทางการเงิน (ในกรณีที่ไม่ได้ใช้บัญชีธนาคารของตนเอง
·         เอกสารระบุความเกี่ยวความสัมพันธ์ ระหว่างนักเรียนและผู้สนับสนุนทางการเงิน เช่นสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้สนับสนุนทางการเงิน   
·         จดหมายรับรองการทำงาน หรือหลักฐานแสดงรายได้ของผู้สนับสนุนทางการเงิน
·         ถ้าเด็กอายุ ต่ำกว่า 18 ปี ต้องอาศัยอยู่กับ ครอบครัวอุปถัมภ์ (Host Family) เท่านั้น (ซึ่งโรงเรียนจะเป็นผู้จัดหาให้) 
ปัจจุบันนี้ หลายๆคน คงทราบกันแล้วว่า สถานการณ์การยื่นขอวีซ่านักเรียนนั้น ค่อนข้างเข้มงวด เนื่องจากบางคนขอวีซ่าผิดวัตถุประสงค์ 
- ในจดหมายเราต้องเขียนวัตถุประสงค์ของการไปเรียนต่างประเทศให้ชัดเจนว่า เรานั้นจะได้ประโยชน์อะไรจากการไปเรียนต่อครั้งนี้ เช่น ไปเรียนต่อเพื่อนำความรู้กลับมาประกอบธุรกิจส่วนตัว/ครอบครัว หรือ เพื่อประโยชน์ในหน้าที่การงานที่ดีขึ้น และบางคนไปเรียนภาษาแล้วกลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทยก็มี

- ประเทศไทยนั้น จัดอยู่ในระดับเลเวล 3 ซึ่ง จะทำให้มีการเพ่งเล็ง และคัดกรองคนไทยที่จะไปศึกษาต่อเข้มงวดขึ้นทุกขั้นตอน ต้องเลือกคอร์สเรียน จากสถาบัน ศูนย์ภาษา หรือมหาวิทยาลัยที่น่าเชื่อถือเท่านั้น! เพราะทุกสถาบันในออสเตรเลีย ถูกจัดระดับเลเวลเช่นกัน  ซึ่งจะแบ่งเป็น
Level 1 - หมายความว่า มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ใครสมัครเรียนกับ เลเวล 1 ไม่ต้องสอบ IELTS
Level 2 - หมายความว่า มีความเสี่ยงระดับกลาง คุณภาพโดยรวมระดับปานกลาง ใช้ผลภาษาอังกฤษในการสมัครเรียน
Level 3 - หมายความว่า มีความเสี่ยงมากที่สุด ต้องใช้ผลภาษาอังกฤษในการสมัครเรียน (เนื่องจากประเทศไทย เป็นประเทศที่ถูกจัดลำดับอยู่ level 3  จึงไม่ค่อยแนะนำให้สมัครโรงเรียน level 3)
ซึ่งทั้งหมดนี้ ทางสถาบัน ศูนย์ภาษา หรือมหาวิทยาลัยก็จะคัดใบสมัครอีกทีด้วยเช่นกัน และทางสถาบัน ศูนย์ภาษา หรือมหาวิทยาลัย สามารถขอเอกสารเพิ่มเติมจากนักเรียนได้

- เอกสารของผู้สนับสนุนทางด้านการเงินนั้น สำคัญเป็นอย่างมาก และจำเป็นต้องเป็นญาติสายตรงเท่านั้น คือ บิดา มารดา และต้องมีหน้าที่การงานชัดเจน และสามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการสนับสนุนของเราได้ ถ้าผู้สนับสนุนทางการเงินไม่ใช่ บิดา มารดา จะต้องมีเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้ยื่นขอวีซ่าด้วย

- การสัมภาษณ์ (ถ้าเป็นของประเทศออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์ จะเป็นการสุ่มการสัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์เท่านั้น) หากเมื่อได้รับสายจากสถานฑูต ขั้นตอนแรกเลย ห้ามตื่นเต้น ทำตัวสบายๆ และพร้อมตอบคำถามให้ชัดเจน ที่สำคัญห้ามโกหก ควรอธิบายวัตถุประสงค์ของการไปเรียนต่อ และอธิบายเกี่ยวกับหลักสูตร และสถานบันที่เราไปศึกษาต่อ อย่างละเอียดชัดเจน

ตัวอย่างคำถามในการสัมภาษณ์วีซ่า
  • ถามเกี่ยวกับส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน (ถ้ามี)
  • ลงเรียนคอร์สอะไร
  • เรียนที่ไหน
  • เมืองไหน
  • ลงเรียนกี่สัปดาห์
  • ทำไมถึงเลือกเรียนที่นี้
  • ใครเป็นแนะนำให้เรียนที่นี่มา?
  • ใครเป็นคนออกเงินค่าใช้จ่ายต่างๆให้?
  • พักที่ไหน พักอยู่กับใคร?
  • มีญาติหรือคนรู้จักอยู่บ้างมั้ย?
  • หลังเลิกเรียน มีแพลนทำอะไรบ้าง?
  • เริ่มเรียนเมื่อไหร่ แล้วจบคอร์สตอนไหน?
  • กลับไทยจะมาทำอะไรต่อ?
- สุขภาพต้องแข็งแรงและไม่เป็นโรคต้องห้าม / โรคร้ายแรง ที่ห้ามเข้าประเทศ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนการยื่นวีซ่านักเรียนด้วย และต้องไปตรวจสุขภาพตามที่สถานฑูตกำหนดเท่านั้น ตรวจที่อื่นไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น